การ ทำ อิน โฟ กราฟ ฟิ ค
ส่วนประกอบของอินโฟกราฟฟิค
อินโฟกราฟิกประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลักๆ ดังนี้
1. ข้อมูลหลัก (Data) – เป็นส่วนของอินโฟกราฟฟิคที่อ้างถึงข้อมูลต้นฉบับ ซึ่งสามารถเป็นข้อมูลที่เป็นตัวเลข เช่น สถิติ ผลสำรวจ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
2. ช่องทางในการสื่อสาร (Visual Channels) – เป็นเทคนิคหรือวิธีการที่ใช้ในการแสดงข้อมูลที่น่าสนใจ รวมถึงการใช้สี ขนาด รูปแบบการเรียง และองค์ประกอบทางสถิติต่างๆ เพื่อให้ความหมายของข้อมูลเป็นที่เด่นชัดและเข้าใจได้ง่าย
3. หลักการแสดงผล (Principles of Display) – เป็นการใช้องค์ประกอบพื้นฐานในการจัดวางเนื้อหาในอินโฟกราฟฟิค เช่น การใช้กราฟแท่ง กราฟวงกลม กราฟเส้น การใช้เส้นโค้งและการจัดเรียงข้อมูลอื่นๆ เพื่อให้ภาพอินโฟกราฟฟิคมีความสม่ำเสมอและสวยงาม
สร้างอินโฟกราฟฟิคที่มีความน่าเชื่อถือ
1. เลือกใช้ข้อมูลที่เป็นที่มาถูกต้องและเชื่อถือได้ – การตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบเป็นเรื่องสำคัญในการสร้างอินโฟกราฟฟิคที่มีค่าไปต่อเนื่อง การใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือไม่น่าเชื่อถืออาจส่งผลให้ผู้อ่านสูญเสียความเชื่อมั่นในข้อมูลของคุณได้
2. ใช้กราฟและสัญลักษณ์ที่เหมาะสม – การเลือกใช้กราฟและสัญลักษณ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจและสนใจกับข้อมูลมากขึ้น การใช้สี รูปแบบ เส้นตารางและการจัดเรียงอื่นๆ ควรทำตรงตามหัวข้อหลักที่ต้องการสื่อสาร
3. ทำให้อินโฟกราฟฟิคมีความน่าสนใจ – การเพิ่มความน่าสนใจให้กับอินโฟกราฟฟิคเป็นเรื่องสำคัญ เช่น การเพิ่มภาพด้วยกราฟิก การใช้สีสันสดใส หรือการใช้รูปแบบเสียงสองมิติ เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
การออกแบบและจัดรูปแบบอินโฟกราฟฟิค
การออกแบบและจัดรูปแบบอินโฟกราฟฟิคเกิดขึ้นแบบองค์รวมระหว่างการใช้สี ขนาด รูปแบบ และลักษณะอื่นๆ เพื่อให้ข้อมูลที่อยู่ในอินโฟกราฟฟิคเป็นที่เป็นธรรมชาติและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ยังต้องดึงดูดความสนใจของผู้อ่านด้วยดี
สำหรับการจัดรูปแบบอินโฟกราฟฟิค คุณสามารถใช้โปรแกรมและเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยในการสร้างอินโฟกราฟฟิคได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างของโปรแกรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมีดังนี้
1. Canva – เป็นเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสร้างอินโฟกราฟฟิคได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย มีแม่แบบที่หลากหลายสำหรับอินโฟกราฟฟิคต่างๆ และคุณสามารถปรับแต่งด้วยภาพ สี และตัวอักษรต่างๆ ตามที่คุณต้องการ
2. Adobe Illustrator – เป็นโปรแกรมออกแบบและวาดกราฟิกที่มีความยืดหยุ่นสูง คุณสามารถสร้างอินโฟกราฟฟิคที่เป็นเอกลักษณ์และหลากหลายได้ตามที่คุณต้องการ
3. Piktochart – เป็นโปรแกรมออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสร้างอินโฟกราฟฟิคได้อย่างง่ายดาย มีชุดสีและแม่แบบที่หลากหลายให้เลือก และคุณสามารถเพิ่มภาพ และตัวอักษรต่างๆ เพื่อปรับแต่งลูกเล่นอินโฟกราฟฟิคของคุณได้
FAQs (คำถามที่พบบ่อย)
1. การทำ infographic ให้น่าสนใจคืออะไร?
การทำ infographic ให้น่าสนใจหมายถึงการออกแบบภาพประกอบที่เน้นความสวยงาม และสร้างความสนใจให้กับผู้อ่าน โดยการใช้สีสันสดใส รูปแบบที่เคลื่อนไหว หรือภาพกราฟิกสวยๆ เพื่อเพิ่มความท้าทายและเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
2. โปรแกรมทำ infographic ฟรีแนะนำอะไรบ้าง?
โปรแกรมที่แนะนำสำหรับการทำ infographic ฟรี มีดังนี้
– Canva
– Piktochart
– Venngage
– Infogram
3. การทำ infographic ด้วย Canva เป็นอย่างไร?
การทำ infographic ด้วย Canva ง่ายและสะดวก คุณสามารถเลือกใช้แม่แบบที่มีอยู่แล้ว หรือออกแบบตัวอักษร ภาพ และคลิปอาร์ตต่างๆ ของคุณเอง โดย Canva มีเครื่องมือที่สะดวกสำหรับการปรับแต่งและแก้ไขอินโฟกราฟฟิค
4. การออกแบบ infographic สวยๆมีเคล็ดลับอะไรบ้าง?
การออกแบบ infographic สวยๆ มีเคล็ดลับดังนี้
– เลือกใช้สีด้วยความรอบคอบ – การใช้สีที่เป็นประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับตาจะช่วยให้อินโฟกราฟฟิคของคุณดูสวยงาม
– ใช้รูปแบบเส้นตารางและองค์ประกอบอื่นๆที่เหมาะสม – การใช้รูปแบบเส้นตาราง กราฟ และภาพประกอบที่เหมาะสมสามารถทำให้อินโฟกราฟฟิคของคุณดูมีเนื้อหาและน่าสนใจมากขึ้น
– ใช้ข้อมูลที่มีความน่าสนใจ – การใช้ข้อมูลที่เป็นรายละเอียด และมีความสำคัญในผู้อ่านจะช่วยเพิ่มความท้าทายและความสนุกสนานให้กับอินโฟกราฟฟิคของคุณ
5. องค์ประกอบของภาพอินโฟกราฟิกมี 3 ส่วนคืออะไร?
องค์ประกอบของภาพอินโฟกรา
การทำ Infographic ด้วยโปรแกรม Powerpoint
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: การ ทำ อิน โฟ กราฟ ฟิ ค การทํา infographic ให้น่าสนใจ, อินโฟกราฟิก ตัวอย่าง, โปรแกรมทํา infographic ฟรี, การทํา infographic ด้วย canva, อินโฟกราฟิก ฟรี, อินโฟกราฟิก สวยๆ, องค์ประกอบของภาพอินโฟกราฟิก มี 3 ส่วนคือ, อินโฟกราฟิก แนะนําตัวเอง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ การ ทำ อิน โฟ กราฟ ฟิ ค
หมวดหมู่: Top 58 การ ทำ อิน โฟ กราฟ ฟิ ค
อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร
การสื่อสารผ่านอินโฟกราฟฟิคมีความสำคัญมากในปัจจุบัน เนื่องจากการวาดภาพและเคลื่อนไหวข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ ทำให้ผู้ชมเข้าใจและรับรู้ข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น และอินโฟกราฟฟิคที่ดีมักจะมีลักษณะที่เฉพาะเจาะจงที่ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจข้อมูลได้อย่างชัดเจนและมีความทันสมัย ในบทความนี้เราจะพูดถึงลักษณะที่ควรมีของอินโฟกราฟฟิคที่ดีอย่างเป็นรายละเอียด
1. ความเรียบง่ายและกระชับ: อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรมีความเรียบง่ายในการใช้และกระชับในการแสดงข้อมูล โดยควรหลีกเลี่ยงการใช้ข้อมูลที่ซับซ้อนหรือเพิ่มรายละเอียดที่ไม่จำเป็น หากมีการใช้ข้อมูลที่ซับซ้อน ควรมีการอธิบายหรือสรุปข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ง่ายต่อการเข้าใจ
2. ความชัดเจนและถูกต้อง: อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรมีการแสดงผลข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นระเบียบ การใช้สีที่ตรงไปตรงมาและมีความเข้ากันได้เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ผู้ชมสามารถอ่านและเข้าใจข้อมูลได้ง่ายและถูกต้องเสมอ
3. การใช้เทคนิคแสดงข้อมูลที่เหมาะสม: อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรมีการใช้เทคนิคแสดงข้อมูลที่เหมาะสม เช่น แผนภาพแท่ง (bar chart) หรือแผนภาพวงกลม (pie chart) เพื่อแสดงอัตราส่วนของข้อมูล การใช้กราฟที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจและรับรู้ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
4. ความสอดคล้องกับแบรนด์และเนื้อหา: อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรสอดคล้องกับแบรนด์และเนื้อหาที่มีการสื่อสาร การใช้สี แบบอักษร และขนาดตัวอักษรที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ชมรับรู้และจดจำข้อมูลได้ง่าย อีกทั้งการใช้โลโก้หรือสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่สื่อความหมายและเข้าข้างตัวเนื้อหาเพื่อเพิ่มความสื่อความหมาย
5. การใช้ภาพและไอคอนที่มีคุณภาพ: อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรใช้ภาพและไอคอนที่มีคุณภาพสูง เพื่อเพิ่มความสะดวกและประสบการณ์การสื่อสารของผู้ชม การใช้ไอคอนที่มีความหมายชัดเจนเพื่อแสดงถึงข้อมูลหรือการกระทำที่ต้องการสื่อสารก็จะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจรวดเร็วขึ้น
6. การใช้แอนิเมชันและเคลื่อนไหวข้อมูล: อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรมีการใช้แอนิเมชันและเคลื่อนไหวข้อมูลอย่างคล่องตัว เพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มประสบการณ์การสื่อสารให้กับผู้ชม การใช้เคลื่อนไหวข้อมูลในอินโฟกราฟฟิคสามารถช่วยให้ผู้ชมเข้าใจและจดจำข้อมูลได้ดีกว่าการใช้ภาพนิ่ง
7. ความเชื่อมโยงและแบ่งส่วน: อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรมีความเชื่อมโยงในเนื้อหา โดยการใช้ลูกศรหรือวงเล็บที่เชื่อมโยงไปยังส่วนที่สนใจ เช่น จำนวนผู้ใช้บริการในแต่ละปี จำนวนประชากรในแต่ละกลุ่ม เป็นต้น การแบ่งส่วนของข้อมูลด้วยดีไซน์ที่ชัดเจนจะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจและเลือกสนใจข้อมูลที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
8. การเลือกข้อมูลที่สำคัญ: อินโฟกราฟฟิคที่ดีควรเลือกใช้ข้อมูลที่สำคัญและมีความหมายสำหรับผู้ชม การนำเสนอข้อมูลที่มีประโยชน์จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและนำไปสู่ความเข้าใจของผู้ชมอย่างมีประสิทธิภาพ
FAQs:
คำถาม: มีโปรแกรมอะไรที่ใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟฟิคบ้าง?
คำตอบ: มีโปรแกรมมากมายที่ใช้ในการออกแบบอินโฟกราฟฟิค เช่น Adobe Illustrator, Canva, Tableau, Microsoft Excel และโปรแกรมอื่น ๆ ที่ใช้ในการสร้างแผนภาพและกราฟ
คำถาม: การใช้สีในอินโฟกราฟฟิคมีความสำคัญอย่างไร?
คำตอบ: สีในอินโฟกราฟฟิคมีความสำคัญในการสื่อสารและสร้างความชัดเจนให้แก่ข้อมูล การใช้สีที่เหมาะสมและมีความเข้ากันได้จะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจและรับรู้ข้อมูลได้ง่ายและถูกต้อง
คำถาม: อินโฟกราฟฟิคมีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจหรือองค์กร?
คำตอบ: การใช้อินโฟกราฟฟิคในธุรกิจหรือองค์กรสามารถช่วยสร้างความเข้าใจและความรู้สึกที่ดีให้กับลูกค้าหรือภายในองค์กรได้ การสื่อสารผ่านอินโฟกราฟฟิคย่อมเพิ่มความเข้าใจและตัดสินใจที่ดีกว่า การใช้อินโฟกราฟฟิคยังช่วยเพิ่มระดับความเป็นมืออาชีพและดึงดูดความสนใจของลูกค้า
คำถาม: แอนิเมชันหรือเคลื่อนไหวข้อมูลมีประโยชน์อย่างไรในอินโฟกราฟฟิค?
คำตอบ: การใช้แอนิเมชันหรือเคลื่อนไหวข้อมูลในอินโฟกราฟฟิคช่วยเพิ่มประสบการณ์การสื่อสารและดึงดูดความสนใจของผู้ชม การใช้เคลื่อนไหวข้อมูลในอินโฟกราฟฟิคสามารถช่วยให้ผู้ชมเข้าใจและจดจำข้อมูลได้ดีกว่าการใช้ภาพนิ่ง
ขั้นตอนสุดท้ายในการสร้างอินโฟกราฟฟิคคืออะไร
การสร้างอินโฟกราฟฟิค (infographic) เป็นกระบวนการที่น่าสนุกและท้าทายในการนำเสนอข้อมูลอย่างกระชับและน่าสนใจ ขั้นตอนสุดท้ายในการสร้างอินโฟกราฟฟิคมีความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งจะแม้แต่ขั้นตอนเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถกระทำให้ผลลัพธ์สุดท้ายมีความสมบูรณ์และตรงกับวัตถุประสงค์ของอินโฟกราฟฟิคได้
ในบทความนี้เราจะพาคุณผ่านขั้นตอนสุดท้ายในการสร้างอินโฟกราฟฟิคอย่างละเอียด โดยมุ่งเน้นให้คุณเข้าใจและรู้ลึกถึงแต่ละขั้นตอน เพื่อให้คุณสามารถสร้างอินโฟกราฟฟิคที่น่าประทับใจและมีผลการนำเสนอที่ดี
1. เตรียมข้อมูลและแผนภาพที่เหมาะสม
ขั้นแรกในการสร้างอินโฟกราฟฟิคคือการเตรียมข้อมูลและแผนภาพที่จะนำเสนอ คุณควรทำการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหรือประเด็นหลักของอินโฟกราฟฟิค เลือกแผนภาพที่เหมาะสมและสวยงามเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับอินโฟกราฟฟิคของคุณ
2. เลือกแบบอินโฟกราฟฟิคที่เหมาะสม
หลังจากที่คุณเตรียมข้อมูลและแผนภาพได้แล้ว คุณต้องเลือกแบบอินโฟกราฟฟิคที่เหมาะสมกับข้อมูลและจัดเตรียมแผนผังพื้นฐานของอินโฟกราฟฟิค เช่น แผนภาพแท่ง (bar chart) หรือแผนภาพวงกลม (pie chart) เพื่อสร้างโครงสร้างและขั้นตอนการนำเสนอข้อมูลให้เรียบเรียงและทำความเข้าใจง่ายต่อผู้อ่าน
3. ออกแบบและวางโครงสร้าง
เมื่อคุณเลือกแบบอินโฟกราฟฟิคแล้ว ต่อไปคือการออกแบบและวางโครงสร้างของอินโฟกราฟฟิค คุณสามารถใช้โปรแกรมกราฟฟิกหรือโปรแกรมออกแบบอินโฟกราฟฟิคออนไลน์ที่มีให้เลือกใช้หลากหลาย เพื่อสร้างโครงสร้างและเรียงลำดับข้อมูลในลักษณะที่เหมาะสมและแสดงความสมดุลของอินโฟกราฟฟิค
4. เลือกสีและสไตล์ที่เหมาะสม
สีและสไตล์เป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อสร้างอินโฟกราฟฟิค เลือกใช้สีที่เป็นไปตามแบรนด์หรือสีที่รองรับหัวข้อหรือประเด็นโดยรวม ที่สำคัญคือสไตล์และสีที่คุณเลือกควรตรงกับการนำเสนอและข้อมูลที่คุณต้องการสื่อสาร
5. เพิ่มเติมข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้อง
เพิ่มเติมข้อมูลเพิ่มเติมในแต่ละส่วนของอินโฟกราฟฟิค เช่น ข้อมูลเชิงพื้นที่หรือเวลา และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและแผนภาพว่าสอดคล้องกันหรือไม่ในแต่ละส่วนของอินโฟกราฟฟิค
6. พิจารณาการใช้ตัวเลือกการแสดงผล
มีตัวเลือกหลายแบบในการแสดงผลข้อมูลในอินโฟกราฟฟิค เช่น การใช้กราฟฟิกแทนตัวเลข การแสดงข้อมูลโดยรวมด้วยแผนที่ หรือการใช้วิดเจ็ตเพื่อเน้นโปรดข้อมูล คุณควรพิจารณาและเลือกใช้ตัวเลือกที่เหมาะสมต่ออินโฟกราฟฟิคของคุณ
7. ทดสอบและปรับแก้
เป็นการวิจารณ์และปรับแก้อินโฟกราฟฟิคของคุณเพื่อให้ได้ผลการนำเสนอที่ดีที่สุด โดยทดสอบอินโฟกราฟฟิคกับกลุ่มประชากรที่เป็นเป้าหมายและรับคำแนะนำและความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงรูปแบบและเนื้อหาอินโฟกราฟฟิค
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. ขั้นตอนสุดท้ายในการสร้างอินโฟกราฟฟิคมีอะไรบ้าง?
ขั้นตอนสุดท้ายในการสร้างอินโฟกราฟฟิคประกอบด้วยการเตรียมข้อมูลและแผนภาพที่เหมาะสม, เลือกแบบอินโฟกราฟฟิคที่เหมาะสม, ออกแบบและวางโครงสร้าง, เลือกสีและสไตล์ที่เหมาะสม, เพิ่มเติมข้อมูลและตรวจสอบความถูกต้อง, พิจารณาการใช้ตัวเลือกการแสดงผล, และทดสอบและปรับแก้
2. ทำไมการเลือกสีและสไตล์ถึงสำคัญในการสร้างอินโฟกราฟฟิค?
การเลือกสีและสไตล์ในอินโฟกราฟฟิคสร้างความรู้สึกและบรรยากาศให้กับผู้อ่าน สีและสไตล์ที่ถูกต้องจะช่วยเติมเต็มและเน้นข้อมูลที่สร้างความชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความน่าสนใจและพิเศษให้กับอินโฟกราฟฟิค
3. ทำไมการทดสอบและปรับแก้จึงสำคัญในการสร้างอินโฟกราฟฟิค?
การทดสอบและปรับแก้ช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยสามารถเรียนรู้ข้อบกพร่องและปรับปรุงเนื้อหาและรูปแบบในขั้นตอนเริ่มต้นของการสร้างอินโฟกราฟฟิคได้ และสุดท้ายคุณจะได้ผลลัพธ์อินโฟกราฟหรือเนื้อหาที่มีส่วนได้ส่วนเสียน้อยที่สุด
ดูเพิ่มเติมที่นี่: buoitutrung.com
การทํา Infographic ให้น่าสนใจ
โดยเกิดขึ้นจากคำว่า “information” และ “graphics” นั้นเอง โดยมีจุดมุ่งหมายหลักคือการสื่อสารข้อมูลอย่างกว้างขวางไปยังผู้ใช้งานที่ต้องการข้อมูลรายละเอียดในรูปแบบที่สะดวกและประณีต
Infographic เป็นเครื่องมือการสื่อสารที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถแสดงข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างเข้าใจง่าย ซึ่งสามารถใช้งานทั้งในส่วนของการประชาสัมพันธ์ การสอน หรือการนำเสนอข้อมูลต่างๆ อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความจำ impression หรือความประทับใจให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย
การทำ Infographic ให้น่าสนใจ
1. เลือกข้อมูลที่สำคัญและเข้าใจง่าย: เลือกข้อมูลที่เป็นประโยชน์และมีความสำคัญในเรื่องที่จะนำเสนอโดยใช้กระบวนการสร้างสรรค์ในการคัดสรรข้อมูล และนำเสนอให้มีความเข้าใจง่ายเพื่อให้ผู้ชมสามารถเข้าใจและกลับมาอ่านใหม่ได้
2. วาดภาพเรื่องราว: การประยุกต์ใช้ภาพเพื่อสร้างเรื่องราวจะทำให้การนำเสนอข้อมูลดูน่าสนใจมากขึ้น โดยเลือกใช้ธีมที่เหมาะสม และคำนึงถึงการใช้สี และตัวอักษรให้เข้ากับภาพเพื่อสร้างบรรยากาศเพื่อนำเสนอ
3. ใช้กราฟิกและแผนภาพต่างๆ: ข้อมูลที่เป็นตัวเลขหรือข้อมูลที่ประมวลผลจะสามารถนำมาใช้เป็นกราฟหรือแผนภาพต่างๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจและอ่านหลากหลาย โดยใช้เครื่องมือกราฟสำเร็จรูปหรือการสร้างกราฟด้วยโปรแกรมสร้างกราฟต่างๆ ตามที่ต้องการ
4. การจัดลำดับข้อมูล: เลือกลำดับข้อมูลและกลุ่มข้อมูลให้มีความน่าสนใจตามลำดับเรื่องราว เพื่อให้ผู้ชมสามารถติดตามและทำความเข้าใจได้ง่าย
5. คำแนะนำใช้งาน: การใช้งานอะไรบ้างให้คำแนะนำการใช้งานโดยเมื่อผู้อ่านได้รับข้อมูลนั้นอย่ารู้สึกสับสนหรือยาก จะทำให้ผู้ชมมีความรู้สึกว่าการนำเสนอข้อมูลนั้นเป็นประโยชน์และสามารถประยุกต์ใช้ได้จริง
6. สร้างโครงสร้าง: การเรียงลำดับข้อมูลให้มีโครงสร้างที่ชัดเจนและมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมบริสุทธิ์หรือโมเดลที่เพดานสูง จะทำให้เกิดความน่าสนใจและมีความกระตือรือร้นในการอ่านข้อมูล
7. สร้าง Visual Hierarchy: การใช้สัญลักษณ์ เส้น และเนื้อหาวางไปในที่ที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอข้อมูลให้เรียงตามลำดับความสำคัญ อย่างเช่น ข้อมูลที่สำคัญจะนำมาวางในส่วนที่โดดเด่นที่สุด และข้อมูลสำคัญที่สองเป็นส่วนสำคัญที่สอง เป็นต้น
8. การใช้สี: การเลือกใช้สีที่เหมาะสมจะมีความสำคัญมาก การใช้สีสร้างบรรยากาศ สร้างประสบการณ์ และเน้นสื่อถึงความรู้สึกของผู้ชม จะทำให้infographic ของเรามีความน่าสนใจและสะท้อนจริงใจ
แนวคำถามที่พบบ่อย (Frequently Asked Questions)
Q: การทำ infographic ต้องมีทักษะการใช้โปรแกรมจำเป็นอะไรบ้าง?
A: ปัจจุบันมีโปรแกรมสร้าง infographic มากมายให้เลือกใช้ ซึ่งตัวอย่างโปรแกรมที่นิยมใช้กันมากคือ Canva, Adobe Illustrator, Piktochart และ Microsoft PowerPoint
Q: หากไม่มีทักษะการออกแบบ สามารถทำ infographic ได้หรือไม่?
A: ความรู้เรื่องการออกแบบจะช่วยให้สร้าง infographic ที่ดูดีและมีคุณภาพมากขึ้น แต่หากไม่มีความรู้และทักษะการออกแบบ สามารถเรียนรู้ได้จากวิทยาลัย หรือการศึกษาด้วยตนเองผ่านหนังสือ หรือคลิปวิดีโอออนไลน์ที่มีอยู่
Q: ควรใช้ข้อมูลจากแหล่งใดในการสร้าง infographic?
A: หากต้องการใช้ข้อมูลจากแหล่งอื่น ควรตรวจสอบความถูกต้อง และเชื่อถือได้ ใช้ข้อมูลจากแหล่งที่มีฐานข้อมูลทางวิชาการ เช่น สถิติอย่างเป็นทางการ หรือสถาบันที่เชื่อถือได้
Q: สำคัญต้องมีการอ้างอิงข้อมูลใน infographic ไหม?
A: การอ้างอิงข้อมูลจะช่วยเพิ่มความเชื่อถือในข้อมูลที่นำเสนอ และช่วยให้ผู้อ่านสามารถตรวจสอบแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลมาจากประสบการณ์หรือความรู้ที่รู้จักและเชื่อถือได้ สามารถใช้ข้อมูลแบบนั้นได้โดยไม่จำเป็นต้องอ้างอิง
Q: การทำ infographic มีข้อจำกัดไหม?
A: การทำ infographic อาจมีข้อจำกัดในองค์ความรู้ทางเศรษฐกิจ, สังคมโลก, หรือประสบการณ์ส่วนตัวของผู้ที่จะทำ ดังนั้นควรมีบทความเพิ่มเติมเพื่อแสดงความรู้เพิ่มเติมและเนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่ การประมวลผลข้อมูลบางประเภทอาจจำเป็นต้องใช้ข้อมูลอื่นเพิ่มเติม
อินโฟกราฟิก ตัวอย่าง
ในโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยภาพและข้อมูลต่างๆที่เป็นมิตรกับข้อมูลเป็นอย่างสิ้นหวัง การมีความสามารถในการสร้างและแสดงผลงานกราฟิกเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก อีกทั้งยังถือเป็นทักษะที่ค้ำจุนให้กับกลุ่มอาชีพต่างๆ เช่น นักการตลาด, นักออกแบบ, นักเขียน, นักสื่อสาร, และอื่นๆ อีกด้วย ในบทความนี้เราจะพาคุณไปพบกับ อินโฟกราฟิก ตัวอย่างที่น่าทึ่งและสามารถเพิ่มความรู้และความสามารถของคุณได้อย่างมากมาย
คำว่า “อินโฟกราฟิก” มาจากคำว่า “Infographics” ที่มาจากการรวมคำและเครื่องหมายของคำว่า “ข้อมูล” และ “กราฟิก” ซึ่งอินโฟกราฟิกคือการสร้างผลงานที่นำข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและน่าสนใจมาประกอบด้วยภาพแผนภาพ กราฟ ภาพรวม แผนภาพแขนง และข้อความที่เป็นมิตรต่อผู้อ่าน ผ่านทางทักษะการออกแบบกราฟิกเด่น ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในแชนเนลของข้อมูลข้องการวิจัย รายงาน หรือการสื่อสารต่างๆ
อินโฟกราฟิกให้สิ่งที่ข้อมูลล้วนมารวมอยู่ด้วยกันให้เป็นศิลปะข้อมูลที่ง่ายต่อการเข้าใจ และช่วยลดการเข้าใจผิด ด้วยการออกแบบหรือเลือกใช้ตัวอักษร เส้นขอบ สี ตัวเลข ภาพแขนง โดยตัวอย่างอินโฟกราฟิกที่ดีที่สุดก็อาจจะให้ข้อมูลประกอบด้วยตัวอย่าง รูปภาพ ตัวอักษร และคำอธิบายอื่นๆอีกมากมาย
อินโฟกราฟิกที่ดีจะมีลักษณะเด่นที่ทำให้การให้ข้อมูลด้วยความลึกลงไปอย่างง่ายดาย มีลำดับเนื้อหาที่เป็นระเบียบ และสามารถนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนได้อย่างกระชับ ไม่ให้ผู้ใช้งานเกิดความสับสน เช่น กราฟที่เขียนบนอินโฟกราฟิกมีการแสดงผลอย่างชัดเจนแล้วก็มีสื่อรองรับอื่นๆอีกมากมายเช่น ตาราง ภาพ คำอธิบายหรือคำชี้แจง เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจโดยที่ไม่จำเป็นต้องอ่านคำอธิบายหรือคำชี้แจงเถอะก็ว่าได้
เมื่อย้อนกลับไปในปัจจุบันของการประมวลผลข้อมูลการเข้าถึงข้อมูลอย่างรวดเร็วโดยผู้ใช้งานได้อย่างไม่ยากลำบาก องค์กรต่างๆได้เริ่มใช้อินโฟกราฟิกในการแสดงข้อมูลของตนเพื่อเผยแพร่ผลงานของตนวิธีหนึ่ง อีกทั้งตัวอย่างเหล่านี้ยังสามารถใช้เพื่ออธิบายข้อมูลเชิงกราฟ หรือแสดงข้อมูลรูปแบบที่สามารถตอบคำถามที่แตกต่างกันได้ เท่านั้นเอง
FAQs
1. อินโฟกราฟิกมีประโยชน์อย่างไรต่อธุรกิจ?
อินโฟกราฟิกช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างการเข้าใจและสื่อสารกับเป้าหมายตลาดได้ดียิ่งขึ้น ผ่านทางการนำเสนอข้อมูลอย่างมีรูปแบบ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถรับรู้ถึงข้อดีและคุณค่าของสินค้าหรือบริการของธุรกิจของคุณได้อย่างเข้าใจง่ายและรวดเร็ว
2. ต้องมีทักษะพิเศษในการสร้างอินโฟกราฟิกหรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องมีทักษะพิเศษในการสร้างอินโฟกราฟิก เนื่องจากในยุคปัจจุบันมีเครื่องมือการออกแบบและสร้างอินโฟกราฟิกต่อมากมาย ทำให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถสร้างอินโฟกราฟิกที่สวยงามและมีคุณภาพดีในเวลาอันสั้นได้
3. อินโฟกราฟิกสามารถใช้สร้างในส่วนของงานการเรียนการสอนหรืองานวิจัยได้หรือไม่?
ใช่, อินโฟกราฟิกเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการสื่อสารความรู้และข้อมูลให้กับผู้เรียน และเป็นที่นิยมในสถาบันการศึกษาทั่วโลก เนื่องจากมีความสามารถในการเน้นการแสดงผลข้อมูลเพื่อเพิ่มความเข้าใจของนักเรียน และทำให้เรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจมากขึ้น
4. จะเรียนรู้การสร้างอินโฟกราฟิกจากที่ไหน?
มีเว็บไซต์และแหล่งเรียนรู้ออนไลน์มากมายที่สามารถช่วยคุณในการเรียนรู้การสร้างอินโฟกราฟิก เช่น “Canva”, “Piktochart”, “Adobe Illustrator” เป็นต้น ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายและมีงานตัวอย่างสำเร็จอย่างมาก ที่สำคัญคุณยังสามารถหาคอร์สเรียนออนไลน์ที่เป็นเจ้าของคอร์สอาจารย์อันมีชื่อเสียงได้อีกด้วย
อินโฟกราฟิกเป็นอีกหนึ่งการสื่อสารที่ทันสมัยและใช้งานกันอย่างกว้างขวางในวิถีชีวิตปัจจุบัน ด้วยความสามารถในการรวมข้อมูล ภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และกราฟิกเด่น ทำให้อินโฟกราฟิกไม่เพียงแค่สื่อสารเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเพิ่มความรู้ความสามารถ และคุณภาพของผู้ใช้งานในหลากหลายสาขาอาชีพ
มี 18 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ การ ทำ อิน โฟ กราฟ ฟิ ค.
ลิงค์บทความ: การ ทำ อิน โฟ กราฟ ฟิ ค.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ การ ทำ อิน โฟ กราฟ ฟิ ค.
- 7 ขั้นตอนการสร้างอินโฟกราฟิก – 9Expert Training
- ทําอินโฟกราฟฟิค ออกแบบด้วยตัวเองฟรีที่ Canva
- 10 เทคนิค ออกแบบ Infographic ให้ติดตาตรึงใจ – Ideogram design
- คู่มือการออกแบบสื่อน าเสนอ Infographics – oreg@rmutt
- การสร้าง Infographics ด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint เบื้องต้น
- Infographics – Dayin
- การออกแบบอินโฟกราฟิกส์ (Infographics Design) – learningstudio.info
- คู่มือการออกแบบสื่อน าเสนอ Infographics – oreg@rmutt
- การจัดทาสื่อ Infographics เพื่อการประชาสัมพันธ์ในสื่
- Infographic คืออะไร + 3 เว็บทำอินโฟกราฟฟิกออนไลน์ ฟรี – Designil
- อินโฟกราฟิกส์(Infographics)
- อินโฟกราฟิก (แนวคิดเบื้องต้น) : Infographic – Active Learning
ดูเพิ่มเติม: https://buoitutrung.com/news blog